ธุรกิจเพื่อสังคม คือธุรกิจที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาทางสังคม เช่น การว่างงาน ภาวะทุพโภชนาการหรือความหิวโหย มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในตัวเอง โดยผลกำไรจะถูกนำไปลงทุนเพื่อพัฒนาภารกิจทางสังคมต่อไป
ในปี พ.ศ.2555 บริษัทที่ปรึกษาชื่อดังอย่าง Boston Consulting Group หรือที่รู้จักกันดีในนาม BCG ได้ร่วมมือกับดร. มูฮัมหมัด ยูนุส ผู้บุกเบิกด้านการเงินรายย่อย ประดิษฐ์ไมโครเครดิต รวมถึงก่อตั้ง Grameen Bank และ Yunus Social Business เพื่อพัฒนาโครงการทางสังคมและธุรกิจ ค้นพบว่าธุรกิจเพื่อสังคมสามารถสร้างผลลัพธ์ในเชิงบวกต่อพนักงานในบริษัทได้ และยังให้ผลประโยชน์ต่างๆ ที่เป็นรูปธรรมแก่บริษัทแม่อีกด้วย เช่น การรับรู้เรื่องแบรนด์ และการมีส่วนร่วมของพนักงาน
หลักในการประสบความสำเร็จของธุรกิจเพื่อสังคม คือ ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและผลกำไรที่กลับเข้ามาในโครงการ จากการสัมภาษณ์ผู้นำกลุ่มต่างๆ กล่าวว่าธุรกิจเพื่อสังคมเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจหลักของบริษัทในหลายๆ ด้าน ดังนี้
1. การเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation)
โอกาสในการเรียนรู้และนวัตกรรม ถือเป็นหนึ่งในผลประโยชน์ทางธุรกิจที่สำคัญ เพราะเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด และเป็นแนวทางการกระจายสินค้าที่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่ยากจน ซึ่งแนวทางเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับธุรกิจหลัก เช่น Veolia ได้ออกแบบ POP UP ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนนักธุรกิจเพื่อสังคม ที่เกี่ยวกับน้ำและสิ่งแวดล้อม POP UP ช่วยให้ธุรกิจของ Veolia สามารถเข้าถึงกลุ่มบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจได้ รวมถึงเป็นการเปิดทางให้องค์กรทางสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและวางแผนแก้ไขระบบนิเวศขนาดใหญ่ด้วย
2.การสรรหาและรักษาบุคลากร (Recruitment and Retention)
ธุรกิจเพื่อสังคมสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานได้ เช่น Danone องค์กรผู้ริเริ่มการสร้างกองทุนรวมเพื่อสนับสนุนความคิดของธุรกิจเพื่อสังคม พนักงาน Danone ประมาณ 40% มีส่วนร่วมในกองทุน และกว่า 300 คนได้รับการสนับสนุนให้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาธุรกิจทางสังคม ผู้บริหาร Danone กล่าวว่า ผู้สมัครงานมักกล่าวถึงกองทุนธุรกิจเพื่อสังคมนี้ การทำธุรกิจทางสังคมจริงๆ ทำให้เรามีข้อเสนอที่แตกต่างซึ่งสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีบริษัทผลิตเบียร์ของบราซิล Ambev ได้คาดการณ์ว่า ธุรกิจทางสังคมจะดึงดูดผู้สมัครให้สนใจเข้ามาร่วมงานด้วยมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
3. ชื่อเสียงและตราสินค้า (Reputation and Brand)
ประโยชน์ของการพัฒนาและสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เช่น Euglena ผู้ผลิตสาหร่ายสัญชาติญี่ปุ่นได้ก่อตั้งโครงการ Genki เพื่อต่อสู้กับภาวะทุพโภชนาการในบังคลาเทศ ด้วยการบริจาคเงิน 10 เยนในการขายผลิตภัณฑ์ Euglena แต่ละชิ้น ในยุคแรก บริษัทได้แจกจ่ายขนมปังบิสกิตให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ขาดสารอาหารในบังคลาเทศ ทำให้ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์สามารถวางจำหน่ายในท้องตลาดได้ดีมากขึ้น เห็นได้ว่า Genki ถือเป็นเครื่องมือในการสร้างแบรนด์ เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทกับผู้บริโภคอย่างแท้จริง
4. หาตลาดใหม่ (New Markets)
ผู้บริหารได้ตั้งข้อสังเกตถึงประโยชน์ของการดำเนินงานและการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ เช่น Nutrivida ธุรกิจทางสังคมที่ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ โดย 20% ของรายได้มาจากสถาบันของรัฐและองค์กรต่างๆ ที่ให้บริการด้านสุขภาพและการศึกษา ผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องจึงทำให้บริษัทแม่อย่าง FIFCO ขยายตัวสู่ตลาดด้วยเช่นกัน
ที่มา
https://www.bcg.com/publications/2017/innovation-strategy-business-social-sector-designing-social-business-benefits-core.aspx