8 เทคนิค ในการนำเสนอแนวคิดต่อนักลงทุน

 1. เน้นที่ปัญหาหรือจุดที่สำคัญ

นักลงทุนจะให้ความสนใจกับแนวคิดเป็นอย่างแรก ดังนั้นนักธุรกิจทางสังคม จำเป็นต้องเสนอสิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับตนเอง อาทิ การแนะนำตัวเอง ตลอดจนแนวทางของธุรกิจและผลงานสำคัญ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับแนวคิด, วิสัยทัศน์ รวมถึงความสามารถในการจูงใจและความเชื่อมั่นในธุรกิจเพื่อสังคมของตน นักลงทุนจะเริ่มประเมินคุณภายใน2-3 วินาทีแรก จากนั้นจะขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณต่อการนำเสนอ

2. การศึกษาข้อมูลของนักลงทุน

คุณจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและประวัติของนักลงทุนก่อนการนำเสนอ เช่น เขาหรือเธอเหมาะกับธุรกิจประเภทใด และแนวทางการประกอบธุรกิจอื่นๆ เมื่อศึกษาถึงปัจจัยเหล่านี้แล้ว คุณจำเป็นต้องเก็บข้อมูลที่สำคัญอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ลืมที่จะอธิบายแนวคิดสำคัญและกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจของตน ตลอดจนผลตอบแทนจากการลงทุนภายใน 5 นาที และคุณควรที่จะเตรียมคำตอบสำหรับคำถามต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้คุณสามารถตอบคำถามได้อย่างมั่นใจ

3. เป็นผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการเล่าเรื่อง

สิ่งที่นักลงทุนเพื่อสังคมแตกต่างจากนักลงทุนเพื่อแสวงผลกำไร คือ การถูกกระตุ้นด้วยเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น นายแซม ไวท์ (Sam White) ผู้ก่อตั้งบริษัท Promethean Power ให้ความเห็นว่า ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม การนำเสนอนั้นมีส่วนสำคัญเพื่อให้นักลงทุนรับทราบเกี่ยวกับแนวทาและอุปสรรคต่างๆ ที่คุณผ่านพ้นมา รวมถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น ในขณะนำเสนอควรมุ่งตรงไปยังประเด็นที่สำคัญด้วย นอกจากนี้ นายแซมยังพูดถึงจุดประสงค์ของการสื่อสารต่อนักลงทุน ในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาทางสังคมเพื่อกระตุ้นความสนใจในการชนะใจนักลงทุน อีกตัวอย่างหนึ่ง ของนายบิล เรย์เชิท (Bill Reichert) ผู้ทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างนักลงทุนกับบริษัท และเป็นผู้ก่อตั้ง Garage Technology Ventures กล่าวว่า นักลงทุนและบริษัทต่างๆ พวกเขาต่างก็ลงทุนด้วยใจของพวกเขา

4. การใช้ระดับเสียงที่เหมาะสม เรียบง่าย ในการสื่อสาร

การพูดด้วยความมั่นใจ สร้างสรรค์ด้วยระดับน้ำเสียงที่เหมาะสม รวมถึงการนำเสนอให้สั้นกระชับและมีพลัง โดยไม่ลืมที่จะสบตาผู้ชมในขณะพูด สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความมั่นใจ นอกจากนี้ การพูดในเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับนักลงทุน ควรใช้คำพูดในชีวิตประจำวันมากกว่าการใช้คำคมและสำนวน

5. การสาธิตแนวทางธุรกิจอย่างเหมาะสม โดยใช้ตัวเลขและอัตราส่วนที่แท้จริง

สามสิ่งหลักที่นักลงทุนสนใจ คือ รายได้, การแบ่งสัดส่วน และกลยุทธ์การหาทางออก อย่างแรก คุณจำเป็นที่จะต้องเจาะจงไปยังสิ่งที่คุณตั้งใจที่จะขาย และนำเสนอกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชัดเจน เช่น นายโกลา มาชา (Kola Masha) ผู้ก่อตั้ง Babban Gona กล่าวว่า คุณจำเป็นที่จะต้องทำให้แน่ใจว่ารูปแบบธุรกิจของคุณ นั้นมีเรื่องราวที่น่าสนใจ รวมถึงวิธีที่คุณจะประสบความสำเร็จในแผนธุรกิจ 3 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะเลิกสนใจ ถ้าโครงการนั้นมีความยืดยาวหรือมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นการวางแผนกลยุทธ์การหาทางออกที่ดีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เช่น คุณจะขายสิ่งที่คุณแบ่งปันให้กับบริษัทอื่นหรือไม่ และคุณมีความตั้งใจเก็บรักษาความลับของบริษัทหรือตั้งใจที่จะขายมันให้กับผู้ที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างนักลงทุนกับบริษัทที่กำลังระดมทุน ดังนั้น การนำเสนอแนวทางของธุรกิจเพื่อสังคม ควรตระหนักถึงลักษณะที่สำคัญทั้งสองด้าน คือ ธุรกิจเพื่อสังคม และสังคมเพื่อธุรกิจ

6. การวางแผนจัดการด้านการเงิน

เนื่องด้วยการสนับสนุนเงินทุนในอนาคต แน่นอนว่านักลงทุน อยากที่จะรู้ว่าคุณมีความตั้งใจที่จะจัดสรรเงินทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างไร เพื่อให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายที่คุณได้กล่าวถึงไว้ในตอนแรก ดังนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องแสดงให้นักลงทุนเห็นถึงสิ่งที่คุณคาดหวังจากรายได้ผ่านระยะเวลาที่เหมาะสม โดยที่นักลงทุนสามารถพิจารณาได้ว่า คุณมีความเข้าใจด้านการเงินมากน้อยเพียงใด รวมถึงความเป็นผู้นำในด้านธุรกิจของคุณ

7. การช่วงชิงตลาดจากคู่แข่งที่มีอยู่

เช่นเดียวกับผลลัพธ์ขั้นพื้นฐานที่กำลังจะเกิดขึ้น และเข้าใจในความต้องการของลูกค้า ดังนั้นการเจาะจงเป้าหมายที่ต้องการจึงเป็นสิ่งสำคัญ และมีส่วนช่วยในเรื่องรายได้ของคุณ ในทันทีที่แนวคิดของคุณนั้นเริ่มล้าสมัยในตลาด การแข่งขันย่อมเกิดขึ้นในทุกที่ และทุกภาคส่วน โดยที่คู่แข่งอาจเป็นธุรกิจที่มีอยู่แล้วในตลาด หรือ เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ ดังนั้นหนทางที่ปลอดภัยที่สุด คือ การตกผลึกแนวคิดและกลยุทธ์ที่จะเอาตัวรอดในสถานการณ์นั้นๆ การนำเสนอ รวมถึงการฉกฉวยส่วนแบ่งทางการตลาดด้วย

8. การดึงความสนใจของนักลงทุน

ใครก็ตามที่ตัดสินใจลงทุนในธุรกิจที่เกิดใหม่ สิ่งที่สำคัญคือการได้รับความไว้วางใจ เช่นเดียวกับนักธุรกิจเพื่อสังคม หน้าที่ของคุณ คือ การคุ้มครองหุ้นส่วน ทั้งคุณและนักลงทุนต่างจำเป็นที่จะต้องอยู่ในเรือลำเดียวกันเพื่อการเติบโตร่วมกัน โดยการลงทุนต้องสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจเพื่อสังคมของคุณได้ ในขณะที่คุณต้องซื่อสัตย์ต่อจริยธรรมของตนเอง นายสาแมร์ อับราฮิม (Samir Ibrahim) ผู้ก่อตั้ง Sun Culture กล่าวว่า คุณจำเป็นที่จะต้องรักษาความซื่อสัตย์ต่อค่านิยมและรูปแบบธุรกิจ โดยคำนึงถึงความก้าวหน้าของธุรกิจเป็นหลัก

บทสรุป

เทคนิคที่กล่าวมาข้างต้น สามารถช่วยให้นักธุรกิจเพื่อสังคมก้าวไปสู่จุดมุ่งหมายได้อย่างแน่นอน รวมทั้งช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาได้รับการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยการฝึกฝนกลวิธีเหล่านี้ต่อเพื่อนและครอบครัว เพื่อดูการตอบสนองของพวกเขา เพื่อที่จะนำมาพัฒนาจุดแข็ง และจุดอ่อนของตนเอง